ซึ่งในบทความตอนแรก (จากทั้งสิ้น 9 ตอนจบ) สำหรับการแก้ไขเครดิตของตัวเองนั้น ผมจะมาขอแนะนำการทำเรื่องขอตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองก่อน เป็นลำดับแรกนะครับ และก่อนจะถึงตรงนั้น เราคงต้องมาเริ่มทบทวนเครดิตของตัวเองก่อนนะครับ เวลาเพื่อนๆ ได่อ่านบทความของผมไป สำหรับตอนแรกนี้ ก็ลองนึกทบทวนตามไปด้วยก็ได้ครับ
ในสมัยที่ผมยังทำงานเป็นพนักงานตำแหน่งวิศวกรขาย (Sales Engineer) นั้น ผมมีบัตรเครดิตทั้งหมด 3 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์, สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ และธนาคารฮ่อกงแบงค์ มีบัตรเงินผ่อน 1 บัตรคือ First Choice และมีบัญชีสินเชื่อบ้านแบบกู้ร่วมกับอีก 1 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงเทพ โดยมียอดหนี้ ณ วันที่ผมประสบอุบัติเหตุดังนี้
- บัตรเครดิตสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ยอดหนี้ ประมาณ 20,000 บาท (เต็มวงเงิน)
- บัตรเครดิตฮ่องกงแบงค์ ยอดหนี้ ประมาณ 20,000 บาท (เต็มวงเงิน)
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ยอดหนี้ ประมาณ 50,000 บาท (เต็มวงเงิน)
- บัตรเงินผ่อนเฟิร์สชอยส์ ยอดหนี้ ประมาณ 9,000 บาท
- สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงเทพ ยอดหนี้ ประมาณ 1,400,000 บาท
- ผมต้องเสียเงินจากการรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 1,300,000 บาท (โดยประมาณ)
- และระหว่างนั้น ผมยังมีรายจ่ายประจำเช่น ค่าผ่อนส่งรถกระบะนิสสัน (ที่ประสบอุบัติเหตุ) กับสยามพาณิชย์ลิสซิ่ง อีกเดือนละ 8,900 บาท
- ผมยังมีรายจ่ายรายเดือนในการจ้างพนักงานที่ผมต้องทำงาน ขณะอยู่ที่โรงพยาบาล 4 เดือน (โดยที่ไม่มีรายได้กลับคืนมา ด้วยเหตุผลจำเป็น แต่ผมก็ต้องทำงานให้สำเร็จ เพื่อโอกาสข้างหน้า) เดือนละ 120,000 บาท โดยประมาณ รวมเงินส่วนนี้ 480,000 บาท
รวมๆ แล้ว คือ ชีวิตผมรอดมาหวุดหวิด พร้อมกับหนี้สินในบัตรเครดิตของคนรอบข้าง ใกล้ชิด อีกหลายแสนบาท จึงได้มานั่งทำงาน และเขียนบทความให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ครับ ดังนั้นภาพโดยรวมก็คือ ผมจึงพยายามเคลียร์หนี้ ไปเรื่อยๆ จนสามารถสรุปได้ดังนี้
- ภายใน 6 เดือนแรก ปิดหนี้ของบัตรเงินผ่อนเฟิร์สชอยส์
- ภายใน 1 ปี ปิดหนี้ของบัตรเครดิตสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์
- ภายในปีที่ 2 ปิดหนี้ของบัตรเครดิตฮ่องกงแบงค์
- เมื่อครบ 4 ปี ยอดหนี้ของบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ เหลือเพียง 8,000 บาท
- ภายในระยะเวลา 6 ปี มีการประนอมหนี้สินเชื่อบ้านทั้งหมด 2 ครั้ง (เกี่ยวกับเรื่องสินเชื่อบ้าน ถ้าผมมีโอกาส ผมจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ ว่าควรจะจัดการอย่างไร)
ถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเอง ผมจึงรบกวนที่บ้าน ช่วยไปเอาเอกสารแบบฟอร์มการยื่นขอตรวจสอบเครดิตบูโร จากธนาคารนครหลวงไทย สาขาปกเกร็ด เพราะใกล้ที่สุดครับ และเท่าที่ผมทราบ สามารถยื่นเรื่องขอตรวจสอบได้เพียงธนาคารเดียว และต้องเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท ที่สำคัญแบบฟอร์มดังกล่าว ต้องยื่นเรื่องวันต่อวัน โดยไม่สามารถเอาแบบฟอร์มออกมาจากธนาคารได้ ส่วนกรณีของผมนั้น ต้องขอร้องกับเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร
ทุกอย่างเรียบร้อย ผมเพียงแต่รอผลการตรวจสอบเครดิตบูโร จาก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ประมาณ 7-15 วัน แล้วเพื่อนๆ คอยพบกับตอนที่ 2 ของ "การแก้ไขเครดิตบูโร" ที่เริ่มมีเนื้อหาเจาะลึกถึงการแสดงเครดิต ในเอกสารเครดิตบูโรของผม พร้อมภาพสแกนที่ผมเปิดเผยให้ดูได้ เพื่อเป็นความรู้กับทุกท่านนะครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 086-314-7866
email : preeda.limnontakul@gmail.com
website : http://www.educationatclick.com/
13/2/2009
- little-31 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 7.5 (ความหมายของสถานะของเครดิตบูโร)
- little-30 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 7 (ติดตามหนี้สินเอง ดีกว่าถูกติดตามทวงถาม)
- little-29 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 6 (การแจ้งผลการใช้สิทธิแก้ไขเครดิตบูโร ของฮ่องกงแบงค์ จากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด)
- little-28 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 5 (การเดินเรื่องขอแก้ไขข้อมูลเครดิต กับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด)
- little-27 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 4 (ศึกษารายละเอียดเครดิตเสีย blacklist จากตัวอย่างจริงของผม กับ Blacklist ของธนาคารฮ่องกงแบงค์)
- little-26 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 3 (ศึกษารายละเอียดเครดิตเสีย blacklist จากตัวอย่างจริงของผม กับ Blacklist ของธนาคารกรุงเทพ)
- little-25 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 2 (ทราบผลเครดิตบูโรจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด)
- little-24 : "การแก้ไขเครดิตบูโร" ตอนที่ 1 (สำรวจเครดิตบูโรของตัวเอง)
ขอบคุณมากสำหรับความรู้ดี ๆ
ReplyDeleteขอบคุณมากๆค่ะที่เขียนบทความ กำลังจะแก้บูโรเหมือนกันค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณ คุณปรีดามากคะ ได้ความรู้มากๆๆ ซึ่งแต่ละแบ้งค์ ทำไมไม่เปฺดเผยเท่าไร
ReplyDeleteThis comment has been removed by a blog administrator.
ReplyDelete