litle-34 : ทำไมยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วก็โดนลูกหลงบนพื้นดินจนได้

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ 4 มกราคม 2554 แล้ว มีข่าวเรื่องการยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่ แล้วผิดพลาด ลูกปืนที่ยิงขึ้นฟ้านั้นกลับมาโดนเด็กที่อยู่ในบ้านจนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็อีก 1 คน ซึ่งข่าวลักษณะนี้ มีให้เห็นกันอยู่เป็นระยะๆ ผมก็จะนึกถึงทฤษฎีพื้นฐานทีเคยเรียนในวิชาฟิสิกส์ สมัยมัธยมปลายทุกครั้ง แล้วก็พูดขึ้นมาทุกครั้งที่ดูข่าว

อาจจะเป็นเพราะว่า ผมมีเรื่องที่ต้องคิด และงานที่ต้องทำมาก จึงลืมที่จะเขียนบทความไป จนเมื่อวันที่ 02/01/2554 ที่ผมต้องไปนอนโรงพยาบาล 2 วัน แล้วไม่ได้เอางานไปทำด้วย จึงคิดถึงเรื่องการเขียนบทความนี้ขึ้นมา และตั้งใจว่า เมื่อถึงบ้าน จะต้องเขียนให้ได้ เผื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านบางท่าน ที่อาจจะรู้จักคนที่ชอบยิงปืนขึ้นฟ้า

คงต้องเริ่มจากคำถามนำเรื่องบทความเสียก่อนว่า "คุณคิดว่า ถ้าคุณโดนยิง จากปืนที่อยู่ห่างตัว สัก 1 เมตร คุณคิดว่าคุณมีโอกาสตายหรือไม่" ซึ่งผมคิดว่า ทุกคนคงต้องนึกแน่ๆ ว่า ต้องเจ็บหนัก หรือเปอร์เซ็นต์การตายก็ต้องมีสูงด้วยนะครับ

นั่นก็เพราะว่า ลูกกระสุนปืนที่ออกจากลำกล้องปืนนั้น มีความเร็วสูงขึ้นอยู่กับชนิด และรุ่นของปืนนั้นๆ และตามหลักทางฟิสิกส์ (วิทยาศาสตร์) แล้ว ถ้าเรายิงปืนขึ้นฟ้า ตรงๆ บนหัวเรา ลูกกระสุนมีความเร็ว 300 fps เมื่อถึงจุดสูงสุด ความเร็วจะเป็นศูนย์ และจะตกลงมาตรงๆ มาบนหัวคนที่ยิงเอง ที่ความเร็วเท่าเดิมกับที่ยิงออกไปคือ 300 fps ดังนั้นแล้ว คงไม่มีใครยิงตรงๆ บนหัว คงต้องยิงให้มีมุมองศาเพื่อไม่ให้ตกลงมาที่ศีรษะของตนเองแน่นอน

(สำคัญมากๆ นะครับ ปืนที่ยิงในแนวระนาบ ลูกปืนจะลดความเร็วลงได้ จนไม่มีผลทำลายล้างใคร แต่ลูกปืนที่ยิงไปในวิถีโค้ง หรือยิงขึ้นฟ้าันั้น ลูกปืนที่ตกลงมาจะมีพลังทำลายเท่ากับลูกปืนที่ถูกยิงออกจากกระบอกปืน นะครับ)

ผมได้ดูข่าวต่อเนื่อง ถ้าจำไม่ผิด ผู้ยิงเป็นตำรวจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะยิงไปที่บ้านคน คือยิงไปที่ทุ่งนาแล้ว ประเด็นนี้ ชี้ให้เห็นว่ ผู้ยิงก็มีความรู้ ในสมัยที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม 6 ที่โรงเรียนมีค่านิยมหนึ่ง คือ ในกลุ่มที่ติวหนังสือกันจะไปแยกย้ายกันคิดหาสูตรลัดมาสอนกันในกลุม หลังเลิกเรียน ผมก็คิดมาหลายสูตรลัด มีสูตรลัดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ การเคลื่อนที่ในแนวโค้ง เพราะถ้าเราชี้ปืนไปข้างหน้า มีมุมองศากับแนวระดับ ลูกปืน็จะเคลื่อนที่ในแนวโค้ง จะสามรถคำนวณหาระยะทางที่ลูกปืนจะไปตกได้ ทำให้ผู้ยิงจะทราบคร่าวๆ ว่า ลูกปืนจะไปตกที่พื้นที่ ที่มีคนพักอาศัยรึเปล่า ถ้าผู้ยิงทำการบ้านสักนิดนึง น่าจะช่วยได้เยอะเลย

ระยะทาง = (ความเร็วลูกระสุนคูณกัน 2 ครั้ง) x (ค่า sin ของมุมที่ทำองศากับพื้น คูณกัน 2 ครั้ง)
หารด้วย (2 คุณด้วย 9.81 เมตรต่อวินาที = 19.62 เมตรต่อวินาที)

ความเร็วของลูกกระสุนปืนนั้นต้องมีหน่วยเป็น เมตรต่อวินาทีด้วยนะครับ เช่น ถ้าเป็น ฟุตต่อวินาที ก็ต้องคูณด้วย 30 (เพราะ 1 ฟุตมี 30 เซนติเมตร) และต้องเอา 100 หาร เพื่อแปลงจากเซนติเมตร ให้เป็นเมตร ดังนั้นตามตัวอย่างข้างบนก็คือ 300 fps = 300 x 30 / 100 = 90 mps (เมตรต่อวินาที)

ถ้าผู้ยิง ยิงปืนนี้ทำมุม 45 องศา จากพื้น จะได้ระยะทาง = 90x90x (1/1.414)x(1/1.414) หารด้วย 19.62 = 8,100/ (19.62x3.14x3.14) = 206.48 เมตร

ผมไม่อยากให้ผู้อ่านเข้าใจยาก ให้สังเกตุง่ายๆ ถ้าท่านทำมุม 45 องศา แล้วจะเห็นว่า ท่านเพียงหาความเร็วลูกระสุนปืนที่ออกจากลำกล้องเท่านั้น ซึ่งก็จะมีเป็นสเปคของปืนอยู่แล้ว ท่านจะได้ระยะทางที่ลูกปืนจะตกแล้ว คราวนี้ถ้า่ท่านทราบว่าถ้าทำมุม 45 องศาแล้ว จะโดน ท่านก็ทำมุมให้สูงขึ้น ระยะทางก็จะลดลงเอง หรือท่านอยากให้ไปไกลกว่านั้น ก็ลดมุมที่ทำองศากับพื้นลง ระยะทางก็จะไกลขึ้น สุดท้ายถ้าไม่ทราบจริงๆ คงต้องถามผู้รู้ให้ช่วยคำนวณให้ สำคัญคือต้องทราบภูมิศาสตร์ของบริเวณแถวนั้นนะครับ

ผมสังเกตุอีกเรื่องคือ ตามข่าว ผู้ยิงบอก่ายิงปืน 7 นัดรวด และทราบว่าจุดที่ยิงไปคิดว่าลูกปินจะตกบนท้องนา ผมคิดเอาเองว่าตอนที่เล็งปืนขึ้นฟ้าคงตั้งใจกะยิงดีแล้ว แต่เนื่องจากเวลายิงก็มีแรงสะบัด ดังนั้น ลูกต่อๆ ไป อาจทำให้องศา และการหันทิศทางเปลี่ยน จึงอาจจะผิดตำแหน่งที่ตั้งใจไว้แต่เดิมครับ

ทั้งหมดก็เป็นความรู้ที่พอจะนึกออก ซึ่งก็นานมากแล้ว ผิดถูกอย่างไร ก็ถือเสียว่า เป็นประเด็นที่ต้องการให้ผู้ที่มีปืนนั้นได้ศึกษาหาข้อมูล ก่อนที่จะยิงละกันนะครับ ศึกษาพื้นที่ ศึกษาสเปคปืน ศึกษาทิศทางและองศา ซึ่งจะส่งผลถึงระยะทางที่ลูกปืนจะตก ว่าอยู่ในชุมชนรึเปล่า

No comments:

Post a Comment

บทความที่ได้รับความนิยมในการอ่าน 1-10 อันดับแรก